การทดสอบความอดทน
THE ENDURANCE TEST
(AD) (AusdauerprÜfung)
1.
วัตถุประสงค์
การทดสอบความอดทน
Endurance Test
(AusdauerprÜfung)
เพื่อเป็นการทดสอบความสามารถของสุนัขทางด้านร่างกายเมื่อออกกำลังจากการวิ่งระดับหนึ่งโดยไม่แสดงอ่อนล้า
ซึ่งเราสามารถทราบถึงการทำงานของอวัยวะภายในของสุนัข
โดยเฉพาะ หัวใจ และปอด
ตลอดถึงความเคลื่อนไหวของสุนัข
การทดสอบความอดทนยังเป็นการทดสอบคุณสมบัติด้านอื่น
ๆ เช่น ความกระปี้กระเปร่า
และความแข็งแกร่งบึกบึน
ซึ่งเป็นที่ปรารถนาตามมาตรฐานของพันธุ์
2. คุณสมบัติของสุนัขที่จะเข้าทดสอบความอดทน
- สุนัขจะต้องมีอายุ
16 เดือนเต็ม และไม่เกิน 6 ปี
- สุนัขจะต้องผ่านการประเมินข้อสะโพก
HD
- จะต้องยื่น
Record card/Work book
- สุนัขจะต้องมีร่างกายที่สมบูรณ์
สุนัขป่วย
สุนัขที่มีแรงไม่เพียงพอ
สุนัขที่เป็นสัด
และสุนัขตั้งท้อง
หรือกำลังให้นมลูกไม่ควรทำการทดสอบ
- กรรมการ
1
คนจะทำการทดสอบสุนัขได้ไม่เกิน
20 ตัว
หากมีสุนัขเข้าทำการทดสอบมากกว่า
20 ตัว จะต้องเพิ่มกรรมการ
- เมื่อเริ่มทำการทดสอบ
หลังจากได้รับการเรียกขาน
ผู้จูงเตรียมตัวเพื่อทำการตรวจสอลอัตลักษณ์
(การตรวจหมายเลขเบอณ์สักหรือหมายเลขไมโครชิพ
- ผู้จูงจะต้องแจ้งต่อกรรมการถึงชื่อของผู้จูง
และชื่อของสุนัข
กรรมการและผู้จัดการทดสอบ
trial manager จะต้องดูสุภาพของสุนัขว่าแข็งแรงสมบูรณ์
- สุนัขที่แสดงความไม่พร้อม
หรือความเหนื่อยจะไม่มีคุณสมบัติสำหรับการทดสอบ
- ผู้จูงจะต้องมีความเป็นนักกีฬาตลอดการทดสอบ
- ผู้จูงจะถูกตัดสิทธิ์จากการทดสอบ
หากแสดงการละเมิดกฎของการทดสอบ
- การตัดสินขึ้นกับกรรมการ
และไม่มีข้อโต้แย้ง
การประเมินผล
การทดสอบความอดทนไม่มีการให้คะแนน
แต่เป็นการทดสอบว่า ผ่าน
หรือ ไม่ผ่าน
สุนัขที่ผ่านการทดสอบจะได้รับเอกสารรับรองว่าผ่านการทดสอบความอดทน
AD
สภาพผิวพื้นที่ทำการทดสอบ
ผิวพื้นที่ทำการทดสอบความอดทนจะต้องเป็นผิวถนน
หรือผิวทางที่มีวัสดุผิวที่แตกต่าง
เช่น ผิวลาดยางมะตอย
ผิวคอนกรีต
และทางที่ไม่ได้ปูผิว
ระยะทางในการทดสอบความอดทน
20 กิโลเมตร ด้วยความเร็ว 12-15
กม./ชม.
การทดสอบแบ่งออกเป็น 2 ตอน
1.
การทดสอบในการวิ่ง
อุณภูมิในการทดสอบไม่เกิน
22 องศาเซลเซียต
- สุนัขจะต้องวิ่งเหยาะ
ๆ Trot ในสายจูง(
ทิศทางตามกฎจราจร)
อยู่ด้านซ้ายมือของผู้จูงและข้างจักรยานโดไม่ดึง
สายจูงจะต้องมีความยาวที่พอเหมาะเพื่อที่สุนัขจะได้ปรับระยะห่างความเร็วในการวิ่งได้
กรรมการและผู้จัดการทดสอบจะติดตามกลุ่มสุนัขไป
อาจจะขี่จักรยานหรือนั่งรถเพื่อบันทึกอาการของสุนัข
จำเป็นจะต้องมีรถสำหรับบรรทุกสุนัขที่บาดเจ็บ
- เมื่อวิ่งได้ระยะทาง
8 กม.แรกให้หยุดพัก 15 นาที
ในระหว่างการหยุดพักกรรมการจะสังเกตุอาการของสุนัข
เช่น เท้าเจ็บหรือบวม
สุนัขที่มีอาการบาดเจ็บรุนแรงจะถูกคัดออกจากการทดสอบ
- หลังจากการพักในครั้งแรก
สุนัขจะต้องวิ่งต่อเป็นระยะทาง
7 กม. แล้วหยุดพัก 20 นาที
ก่อนที่จะเริ่มวิ่งต่อ
กรรมการจะสังเกตุอาการของสุนัข
เช่น เท้าเจ็บหรือบวม
สุนัขที่มีอาการบาดเจ็บรุนแรงจะถูกคัดออกจากการทดสอบ
- หลังจากการหยุดพักครั้งที่สอง
สุนัขจะต้องวิ่งต่ออีก 5
กม. แล้วหยุดพัก 15 นาที
ในระหว่างการหยุดพักกรรมการจะสังเกตุอาการของสุนัข
- สุนัขที่ขาดความแข็งแกร่ง
หรือแสดงอาการไม่กระปรี้กระเร่า
หรือแสดงอาการอ่อนล้า
และไม่สามารถวิ่งได้ในความเร็ว
12 กม.
ต่อชั่วโมงได้
หรือใช้เวลาในการวิ่งมากเกิน
สุนัขที่มีอาการเท้าระบมมาก
หรือแสดงอาการกลัวเมื่ออยู่บนถนน
จะถูกไม่ให้ผ่านในการทดสอบ
2.
การทดสอบการเชื่อฟังคำสั่ง
หลังจบการทดสอบวิ่ง
กรรมการจะให้คำอธิบายแก่ผู้จูงและสุนัข
สุนัขจะต้องอยู่ในท่านั่งชิด
เมื่อกรรมการเรียกให้ผุ้จูงงและสุนัขแสดงบททดสอบตามกฎของการทดสอบการเชื่อฟังคำสั่งใน
BH
โดยให้สุนัขอยู่นอกสายจูง
แต่ในการทดสอบนี้ไม่มีการทดสอบด้วยเสียงปืน
|