ติดต่อเรา 156 หมู่ 3 ตำบลดอนมูล อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ 54130 มือถือ 08-7189-4338 Email: info@donmoonfarm.com
Last updated: 21 June 2014 09:23 AM
|
ภาษาของโดเบอร์แมนภาษาของโดเบอร์แมนและสุนัขอื่น ๆ โดยมากจะเป็นภาษากาย และการใช้การดม ภาษากายของสุนัขค่อนข้างจะสลับซับซ้อน ภาษากายของสุนัขแสดงออก เช่น ผ่อนคลาย, ตื่นตัว, ขู่ป้องกัน, ขู่แบบเตรียบรับ, อยากเป็นมิตร, ยอมสยบ, อยากเล่น และ อยู่ในภาวะกดดัน เรามีความจำเป็นต้องเข้าใจพฤติกรรมอื่น ๆ และสาเหตุที่ทำให้มันแสดงออกต่าง ๆ รวมถึงการสื่อสารทางเสียงที่สุนัขใช้ เช่น การเห่า, หอน, คำราม, ร้องคราง ว่าทำไมสุนัขจึงแสดงกิริยาแต่ละอย่าง สุนัขเกิดมาพร้อมกับชุดของลักษณะท่าทางต่าง
ๆ ตามสัญชาตญาณของมัน
แต่ไม่ได้หมายความว่ามันรู้หรือเข้าใจในความหมายของมัน
ลูกสุนัขจะเรียนรู้ภาษากายส่วนใหญ่ในช่วง
2-3
สัปดาห์แรกของชีวิตมันจากพ่อแม่
พี่น้องร่วมครอก
และจากผู้นำฝูง (มักจะเป็นครอบครัวของมนุษย์)
สุนัขคาดหมายว่าคนจะเข้าใจในภาษาของมัน
ลูกสุนัขที่ตื่นเต้นมาก ๆ
อาจจะทักทายเจ้าของหลังจากได้ออกจากกรงโดยการกระโดดเข้าใส่
และเห่า
เจ้าของควรจะเดินตรงออกไปข้างนอกเพื่อให้มันเดินตามโดยสัญชาตญาณทันที
ดีกว่าการที่ก้มตัวลงไปจับตัวลูกสุนัข
แล้วลูกสุนัขที่ตื่นเต้นมาก
ๆ
ก็จะต้อนรับด้วยการฉี่บนพื้นห้องห่างประตูกรงแค่
23 ก้าว
นี่คือตัวอย่างของความผิดพลาดในการสือสารระหว่างเจ้าของกับลูกสุนัข
แต่เมื่อได้เข้าใจความหมายในการสื่อสารแล้ว
ก็สามารถลดความเครียดทั้งเจ้าของ
แต่ลูกสุนัขจะลดความเครียดได้มากกว่า
ท่าทางแสดงความผ่อนคลายท่าท่างผ่อนคลายของสุนัข
หาดูได้เมื่อเวลาที่สุนัขนอนแทะกระดูกอยู่แทบเท้าเจ้าของ
ในขณะที่เจ้าของอ่านหนังสือเล่มโปรด
หูของสุนัขทั่วไปจะลู่ไปด้านหลัง
แต่ของโดเบอร์แมนที่ตัดหูและดามหูตั้งดีแล้ว
หูของมันก็จะตั้ง
และหางของสุนัขทั่วไปก็จะปล่อยลง
ท่าทางแสดงความตื่นตัว
ลักษณะเหมือนกับท่าทางที่สุนัขผ่อนคลาย
แต่หูของโดเบอร์แมนจะตั้งและผึ่งไปด้านหน้า
ตาจ้องมอง
ท่ายืนเชิดสูงและนิ่ง โดเบอร์แมนแสดงความสนใจและกังวล
ขณะที่พร้อมจะเปลี่ยนพฤติกรรมขึ้นอยู่กับสิ่งที่อยู่ในความสนใจจะทำอะไร
คนแปลกหน้าไม่ควรเข้าหาสุนัขในท่านี้
เพราะสุนัขยังไม่ได้ตัดสินใจ
ในขณะที่ทำการฝึก
เจ้าของควรให้ความสนใจในท่าทางเช่นนี้ซึ่งเป็นท่าที่สุนัขสามารถเปลี่ยนเป็นอาการอะไรก็ได้
การแก้ไขจะเหมาะสมมากในขณะนี้
ก่อนที่ลักษณะนิสัยจะเปลี่ยนไปในทางที่ไม่เหมาะสม ท่าแสดงการขู่ป้องกัน
เป็นท่าที่สุนัขยืนเชิดสูงและนิ่ง
หูตั้งและผึ่งไปด้านหน้า
พร้อมด้วยสายตาที่จ้องมอง
ลิมฝีปากจะเผยอขึ้นแสดงให้เห็นฟัน
ขนหลังล้มลง
แต่ที่ตะโพกตั้งขึ้น
ถ้ามีหาง ๆ จะตั้งขึ้น
ท่านี้แสดงให้เห็นว่าสุนัขได้ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องทำอะไรลงไป
หากเป้าหมายไม่หยุดมันก็จะจู่โจมทันที
คนแปลกหน้าห้ามเข้าหาสุนัขในท่านี้เด็ดขาด
เจ้าของสุนัขควรจะเข้าใจไว้ว่า
การแก้ไขทางกายภาพควรหลีกเลี่ยง
อันจะทำให้สุนัขกร้าวร้าว
ควรจะใช้การแก้ไขด้วยเสียง
หากการแก้ไขด้วยเสียงไม่บังเกิดผล
แสดงว่าสุนัขจำเป็นต้องได้รับการฝึก
อย่าลืมว่ากุญแจสำคัญในการใช้การแก้ไขทางกายภาพ
ต้องทำก่อนที่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้นเท่านั้น
ท่าแสดงการขูแบบตั้งรับ
โดยทั่วไปเหมือนกับท่าขู่ป้องกันตัวเอง
แทนที่สุนัขจะยืนเชิดสูง
แต่สุนัขจะย่อตัวและหัวลงพร้อมจะจู่โจมทันที
สุนัขได้ตัดสินแล้วว่าเป้าหมายเป็นศัตรู
และอาจวิ่งออกห่างจากเป้าหมายและวิ่งวนเพื่อไม่ให้มันเป็นอันตรายได้ง่าย
เพื่อเตือนให้เป้าหมายอย่าเสี่ยงจู่โจมเข้ามา
สุนัขแสดงท่านี้เพื่อหวังว่าเหยื่อจะไม่ตัดสินจู่โจมมัน
หากเป้าหมายอยู่นิ่ง
สุนัขก็จะรอเพื่อหาจังหวะที่ดี
เข้าจู่โจมเพื่อให้เป้าหมายบาดเจ็บมากที่สุด
ในขณะที่มองหาช่องทางหนี
เป้าหมายห้ามเข้าหาสุนัขในท่านี้
และเจ้าของต้องเข้าใจว่า
การทำการแก้ไขทางกายภาพไม่ควรทำ
ควรพาสุนัขหนีออกจากเป้าหมาย
อาจจะให้อาหารเป็นสิ่งจูงใจ
และให้สุนัขได้ผ่อนคลาย
ควรเข้าใจว่าสุนัขเพียงแต่ตื่นตัว
และควรให้สุนัขได้เรียนรู้การรับรู้เป้าหมายในทางที่ถูกต้อง
สุนัขที่แสดงอาการเช่นนี้บ่อยครั้ง
เนื่องจากการขาดการแนะนำเข้าสังคมที่ไม่เพียงพอ
socialization
ท่าแสดงการยอมรับเป็นอาการที่สุนัขแสดงการยอมรับสุนัขอื่นหรือบุคคลในฐานะเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือกว่ามัน
เรามักจะเห็นได้เมื่อเราดุตะโกนใส่สุนัขของเรา
ในขณะที่สุนัขแสดงอาการยอมรับนี้
หูจะลู่ไปด้านหลัง ย่อตัวลง
และกลิ้งตัวลง
หางจะม้วนเข้าใต้ลำตัว
หากแสดงอาการยอมรับมากเกินอาจจะมีการฉี่หยดออกมาด้วย ท่าแสดงการดีใจยอมรับอาการดีใจยอมรับในฐานะผู้มีอิทธิพลเหนือกว่า
แสดงออกได้หลายทาง
โดยปรกติจะประกอบด้วยหูลู่ไปด้านหลัง
หางบางครั้งตกลง
มุมปากเผยอขึ้นเล็กน้อยด้วยรอยยิ้ม
หน้าตาแสดงความยินดี
ย่อลำตัวต่ำ
และเข้ามาใช้จมูกดม และเลีย
เป็นการที่สุนัขในฝูงแสดงการต้อนรับสมาชิกร่วมฝูง
เป็นการแสดงออกถึงความไม่หวาดกลัว
แต่มีความสุขใจ
อาจมีการหูลู่ หางแกว่ง
และบางครั้งลำตัวส่ายไปมาด้วย
สุนัขที่แสดงอาการเช่นนี้ภายใต้สภาวะที่ปรกติ
แสดงถึงสุนัขการได้รับการฝึกมาอย่างดี
ท่าแสดงความอยากเล่นสุนัขที่แสดงอาการอยากเล่นจะมีลักษณะท่าทาง หางแกว่ง ย่อลำตัวส่วนหน้าและลดหัวลง ก้นยกสูง ขาหน้ากางแยกเป็นมุม 90 องศา ปากอ้า เห็นลิ้น หูตั้งผึ่งไปด้านหน้า อ้าปาก กริยานี้มักจะประกอบด้วย การเต้นไปรอบ ๆ และการเห่าเสียงระดับปานกลาง สั้น สุนัขที่แสดงอาหารเช่นนี้เป็นสุนัขที่มีความสุข และมีความสบายใจ แต่สุนัขควรจะได้รับการฝึกให้แสดงอาการเช่นนี้ให้เหมาะสมกับเวลาและสถานที่ ท่าแสดงอาการเครียดสุนัขที่แสดงอาการเครียดเป็นการแสดงออกถึงหลายอย่าง
อาจจะบ่งบอกถึงสุนัขอยู่ในอาการเครียดง่าย
และควรระมัดระวังในการพาสุนัขไปสถานที่แปลกใหม่
สุนัขอาจเคยถูกข่มเหงมาก่อน
โดยปรกติโดเบอร์แมนไม่อ่อนไหวต่ออาการเครียดภายในระยะเวลาสั้น
ๆ
แต่ถ้าหากปล่อยไว้เป็นเวลานานโดยไม่มีการกระตุ้น
สุนัขอาจจะเริ่มอ่อนไหว
สุนัขอาจแสดงอาการเครียดหากมีการฝึกหนักเกินไป
ผู้ฝึกจะต้องสังเกตุอาการเครียด
หากสุนัขเกืดความเครียด
จะไม่เป็นผลคีต่อการฝึก
การแสดงอาการเครียดอาจเพราะสุนัขเคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน
เจ้าของจะต้องเอาใจใส่ดูแลสุนัขและคอยสังเกตุอาการผิดปรกติ
เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น
ท้องผูกอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หลวงได้
หากไม่ได้รับการเยียวยาที่เหมาะสม
ลำตัวจะห่อและย่อลง
บางครั้งจะมีเหงื่ออก
โดยจะสังเกตุได้ที่อุ้งเท้า
หากไม่สามารถหาสาเหตุที่ดีได้ว่าเกิดจากอะไร
เจ้าของควรพาสุนัขไปพบสัตว์แพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย
ลักษณะของสุนัขที่อยู่ในความเครียด
หางจะตก หุจะลู่ไปด้านหลัง
ม่านตาจะ เบิกกว้าง
มักจะหอบและปากจะดึงกลับ
พลังขับสุนัขแต่ละต้วจะมีพลังขับที่แตกต่างกัน
จะทราบได้จากการฝึก
เป็นสิ่งที่ดีหากมีความเข้าใจสุนัขในแต่ละตัวและทราบถึงสิ่งจูงใจที่ก่อให้เกิดพลังขับตามสัญชาตญาณของสุนัขแต่ละตัว
และการตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมของสุนัข
การเข้าใจพลังขับในสุนัขจะทำให้เข้าใจถึงพฤติการต่าง
ๆ
และความสลับซับซ้อนของพฤติกรรมของสุนัขได้ดีกว่าการแสดงออกตามปรกติ
พลังขับในด้านต่าง ๆ คือ พลังขับในการล่าเหยื่อ พลังขับนี้จะสนองต่อพฤติกรรมในการล่าและการหาอาหาร
รวมถึง พฤติกรรมในการไล่ตาม,
การไล่ล่า, การตะครุบ,
การกัดแทะของเล่น,
การตามกลิ่น
สุนัขที่มีการแสดงออกถึงการล่าเยื่อมักจะแสดงอาการเช่นนี้บ่อยครั้ง
และจูงใจได้ง่ายโดยการขว้างของเล่น
การแก้ไขทางกายภาพสามารถทำได้และจำเป็นในช่วงแรก
ๆของการฝึก พลังของความเป็นฝูง
พลังขับนี้จะสนองต่อเจ้าของโดเบอร์แมนที่นิยมพฤติกรรมของโดเบอร์แมน พฤติกรรมนี้รวมถึง
ความผูกพันต่อการรับใช้และการเป็นผู้ติดตาม
พลังขับนี้เป็นสิ่งที่ทำให้โดเบอร์แมนมีความน่ารักเป็นอย่างยิ่ง
และทำให้มันเป็นที่พึงพอใจไม่เสื่อมคลาย
สุนัขที่มีพลังของความเป็นฝูงสูง
มักไม่ชอบอยู่โดยลำพัง
แต่จะชอบอยู่เคียงข้างกับเจ้าของตลอดเวลา
สุนัขประเภทนี้จูงใจง่ายด้วยการชมและมีความจำเป็นต้องแก้ไขโดยกายภาพน้อยมาก
พลังขับของการต่อสู้
พลังขับนี้สนองต่อพฤติกรรมในการป้องกันฝูง
เช่นการป้องกัน
ด้วยการแสดงลักษณะขู่และการกัดเพื่อป้องกัน
สุนัขที่มีพลังขับในการต่อสู้สูงจะมีความเป็นตัวเองสูง,
มีการปกป้อง
และสามารถทนต่อสภาวะกดดันได้ดี
สุนัขประเภทนี้จะไม่ค่อยอ่อนไหวต่อการแก้ไขทางกายภาพ
หรือโดยเฉพาะการจูงใจด้วยของเล่นหรือการชมเชย
และน่าท้าทายสำหรับการฝึก
แต่เมื่อได้รับการฝึกแล้ว
จะเชื่อฟังคำสั่งดีมาก
พลังของการล่าถอยพลังขับนี้จะสนองต่อพฤติกรรมการป้องกัน
เช่นการตั้งรับ
สุนัขที่มีพลังขับนี้มักจะไม่ค่อยมีความเป็นตัวเอง
และมีแนวโน้มที่จะเกิดความกลัว
และยอมสยบ
สุนัขประเภทนี้ไม่ควรแก้ไขทางกายภาพ
การใช้อาหาร ขนม
จะได้ผลร่วมกับการแนะนำเข้าสังคม
socialization
การสือสารทางเสียง
โดยทั่วไปโดเบอร์แมนเป็นสุนัขที่ชอบใช้เสียง แต่ละตัวจะมีลักษณะของเสียงที่แตกต่างกัน |
|
Back |